ถ้าหมอบอกว่าหมอเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง
คงไม่มีใครถามต่อ ส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงว่าหมอคงรักษาสิว ฝ้า กระ ฉีดโบทอกซ์
ฟิลเลอร์ และเลเซอร์ บางคนอาจถามต่อว่ารักษาโรคผิวหนังด้วยไหม
แต่ถ้าหมอบอกว่าหมอเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านตจวิทยา หลายคนคนงง
ว่าหมอคนนี้ทำอะไร
บางคนนึกไปถึงจิตวิทยาด้วยค่ะ
ตจวิทยา (dermatology) เป็นสาขาหนึ่งในวิชาแพทยศาสตร์ที่เกี่ยวกับผิวหนังและโรคผิวหนัง เป็นสาขาย่อยพิเศษทั้งทางด้านอายุรศาสตร์และศัลยศาสตร์ ตจแพทย์ดูแลผู้ป่วยที่มีโรคผิวหนังหรือปัญหาด้านความสวยความงามเกี่ยวกับผิวหนัง เช่นผิวหนัง หนังศรีษะ เส้นผม และเล็บ
โครงสร้างของผิวหนัง ตจวิทยา หมอผิวหนัง |
ตจแพทย์ในประเทศไทยจะต้องจบแพทยศาสตร์บัณฑิตก่อนโดยใช้เวลาเรียนปกติคือ 6 ปี หลังจากนั้นจึงเข้าเรียนเพื่อเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง ในประเทศไทยมีหลักสูตรการอบรมแพทย์ประจำบ้าน สาขาตจวิทยาที่ต้องใช้เวลาเรียน 4 ปี
ซึ่งในปัจจุบันมีสถาบันฝึกอบรมในระดับนี้ 5 แห่ง
ได้แก่
1.
สาขาวิชาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. หน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
3.ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล
4.แผนกผิวหนัง กองอายุรกรรม
โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
5.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข
ในแต่ละปีจะมีแพทย์ที่จบหลักสูตรการอบรมและสอบผ่านจนได้รับ
“วุฒิบัตร” แสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
สาขาตจวิทยา จากแพทยสภา ประมาณ 20 คนเท่านั้น แพทย์ที่มีวุฒิบัตรฯ หรือ
หนังสืออนุมัติฯ สาขาตจวิทยา นี้เท่านั้นที่จะเป็น Dermatologist หรือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง หรือ ตจแพทย์ ตามระเบียบของแพทยสภา
และเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
แพทย์ในกลุ่มนี้สามารถทำการตรวจรักษาโรคผิวหนังและดูแลปัญหาด้านผิวพรรณความงามได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน
ตจแพทย์ใช้วิธีรักษาต่างๆหลากหลายวิธีโดยวิธีหลักๆมี
- การฉีดสารเติมเต็มเชิงสำอาง
- การกำจัดขนโดยใช้เลเซอร์หรือวิธีการอื่น
- การปลูกผม
- การบำบัดแบบ Intralesional โดยใช้สเตียรอยด์หรือเคมี
- การใช้เลเซอร์เพื่อการจัดการปานและความผิดปกติของผิวหนังอื่นๆ เช่นการลดสิว และลบรอยสัก การชะลอวัย
- การบำบัดด้วยแสงเชิงพลวัติ ใช้สำหรับการรักษามะเร็งผิวหนังและป้องกันการเกิดมะเร็ง
- การบำบัดด้วยแสง โดยรวมถึงการใช้รังสีเหนือม่วงบีความถี่กว้าง ความถี่แคบ และอื่นๆ
- การดูดไขมัน โดยจะใช้ในการชลอวัยและการกำจัดไขมันเฉพาะจุด
- การผ่าตัดด้วยความเย็น สำหรับการรักษาหูด มะเร็ง และความผิดปกติอื่นๆ
- การรักษาด้วยรังสี
- การผ่าตัดโรควงด่างขาว
- การวินิจฉัยภูมิแพ้
- การบำบัดเชิงระบบ โดยใช้ยา
- การบำบัดเฉพาะที่
หลายคนคงงงว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนังในแต่ละปีจบมาไม่มาก แต่ไหงคลินิกผิวหนังบ้านเราเยอะมาก เนื่องจากตามกฎหมาย พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม อนุญาตให้แพทย์ที่จบมาทุกคนสามารถทำการรักษาได้ทุกโรค คลินิกที่เปิดส่วนใหญ่จะเปิดเป็นคลินิกเวชกรรมและรักษาโรคผิวหนังไปด้วย แพทย์บางท่านก็ได้ศึกษาและอบรมต่อในคอร์สเกี่ยวกับความงามที่เปิดทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่คลินิกที่เป็นคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง(ตจวิทยา)ที่ได้รับการรับรองโดยแพทยสภามีไม่มาก
www.dr1wellness.blogspot.com
ติดตามบทความได้ในช่องทางอื่น
www.facebook.com/dr1chuleekorn
IG @dr1chuleekorn
line ID @nom4090p
ติดตามบทความได้ในช่องทางอื่น
www.facebook.com/dr1chuleekorn
IG @dr1chuleekorn
line ID @nom4090p
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น